Archive พฤศจิกายน 2024

วิธีการไล่ยุงออกจากรถ 

เชื่อว่าหลายคนคงเคยมีประสบการณ์มียุงบินเข้ามาภายในรถและแน่นอนว่ามันสร้างความรำคาญให้กับเราเป็นอย่างมากเพราะในขณะที่เราขับรถอยู่แล้วมียุงบินผ่านหน้าผ่านตาไปมันรบกวนสมาธิของเราเป็นอย่างมากแน่นอนและที่สำคัญบางทียุง

ก็กัดทำให้เราเจ็บๆคันๆอีกด้วยดังนั้นเรามักจะเห็นว่าเวลามียุงบินเข้าไปในรถนั้นคนขับมักจะเสียสมาธิและพยายามที่จะขับไล่มันออกไปซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ 

อย่างไรก็ตามเหตุผลที่ภายในรถยนต์ของเรามักจะมียุงนั้นส่วนหนึ่งก็มาจากการที่บ้านเราอาจจะมียุงเยอะและเมื่อเรามีการเปิดประตูรถยนต์ยุงก็จะบินเข้ามาในช่วงที่เราเปิดประตูรถยนต์และไม่ยอมบินออกไป  หรือบางทียุงอาจจะได้กลิ่นเศษอาหารของเราที่ตกอยู่ภายในรถ

เมื่อเรามีการเปิดประตูมันจึงรีบบินเข้าไปในรถทันทีซึ่งทางที่ดีเราจำเป็นที่จะต้องหมั่นทำความสะอาดภายในรถยนต์ของเราเป็นประจำเพื่อป้องกันไม่ให้ยุงหรือแมลงชนิดอื่นๆเข้าไปในรถยนต์ของเรา 

สำหรับวิธีที่จะทำให้ยุงที่อยู่ภายในรถยนต์ของเรานั้นออกไปจากรถของเรามีวิธีเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดซึ่งอันดับแรกเราต้องมาดูที่สาเหตุว่ายุงเข้ามาในรถยนต์ของเราจากสาเหตุอะไรและเราก็แก้จากสาเหตุนั้นๆเช่นถ้าหากว่ายุงเข้ามาในรถยนต์ของเราเพราะเราเปิดประตูรถค้างไว้หรือเปิดกระจกค้างไว้เราก็เพียงแค่ต้องปิดประตูและปิดกระจกรถยนต์เพียงเท่านี้ก็ป้องกันยุงได้แล้ว

ถ้าหากว่ายุงเข้ามาในรถยนต์เพราะบริเวณบ้านของเรามียุงทุกชุมเพียงแค่เราเปิดประตูเข้าไปนั่งเพื่อที่จะขับแป๊บเดียวยุงก็สามารถบินเข้ามาในรถของเราได้สำหรับวิธีการนี้ก็แก้ไขด้วยการกำจัดยุงรอบๆบริเวณบ้านของเราซึ่งหลายคนคงทราบดีอยู่แล้ว

ถึงวิธีการกำจัดยุงรอบๆบ้านนั่นก็คือกำจัดน้ำที่มีการเพิ่มค่ะที่จะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงนั่นเองถ้าหากว่ารอบบ้านของเราไม่มียุงก็จะไม่มียุงตัวไหนบินเข้านาในรถยนต์ของเราได้เช่นเดียวกัน 

นอกจากนี้ยังมีวิธีการไล่ยุงอีกหลายวิธีโดยเราอาจจะใช้วิธีฉีดสเปรย์ไล่ยุงก็ได้เช่นเดียวกัน  เพราะปัจจุบันนี้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปนั้นก็มีสเปรย์ไล่ยุงเยอะแยะมากมายหลายยี่ห้อเลยทีเดียวหรือจะใช้วิธีการผลิตสเปรย์ไล่ยุงเองก็ได้เนื่องจากว่ายุคนั้นไม่ชอบกลิ่นของตะไคร้แล้วก็แค่ทำน้ำมันตะไคร้ฉีดภายในรถยนต์เมื่อยุงได้กลิ่นนี้มันก็จะบินหนีออกไปเอง

สำหรับใครที่มีปัญหายุงเข้าไปในรถยนต์ในขณะที่เรากำลังขับรถนั้นวิธีการที่เราจะทำได้ง่ายๆโดยที่ไม่เกิดอันตรายกับเรานั่นก็คือการเปิดกระจกรถทิ้งเอาไว้ทุกด้าน  รับรองได้เลยว่าไม่นานยุงจะบินออกจากรถยนต์ของคุณเอง 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย   ปัญหาการได้ยิน

การจัดการกับความรุ้สึก ความสัมพันธ์ที่่เป็นแค่เครื่องผลิตเงินของครอบครัว

ความสัมพันธ์ที่ถูกมองว่าเป็นแค่ “เครื่องผลิตเงิน” ในครอบครัวมักจะเกิดขึ้นเมื่อบุคคลหนึ่งในครอบครัวรู้สึกว่าตนเองถูกใช้เป็นเพียงแหล่งรายได้ โดยไม่ได้รับความรัก การสนับสนุนทางอารมณ์ หรือการยอมรับในฐานะบุคคลที่มีคุณค่าในตัวเอง ความสัมพันธ์ในลักษณะนี้มักเต็มไปด้วยความกดดัน

ความคาดหวังที่สูงเกินไป และความรู้สึกว่าหน้าที่ของตนเองในครอบครัวคือการทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวเท่านั้น โดยไม่มีการให้คุณค่าทางอารมณ์หรือความสนใจในด้านอื่น ๆ

บุคคลที่รู้สึกว่าตนเองเป็นแค่เครื่องผลิตเงินอาจอยู่ในภาวะอารมณ์ที่ซับซ้อนและเจ็บปวด ความรู้สึกเหล่านี้อาจรวมถึง:

  1. ความเครียดและความกดดัน: ความรู้สึกว่าเขาต้องทำงานหนักเพื่อครอบครัวโดยไม่สามารถหาความสุขหรือความพอใจในชีวิตตนเองได้ ทำให้เกิดความเครียดสะสม
  2. ความรู้สึกขาดคุณค่าในตัวเอง: เมื่อคนในครอบครัวมองเขาเป็นเพียงแหล่งรายได้ เขาอาจรู้สึกว่าตนเองไม่มีคุณค่าในด้านอื่น ๆ นอกจากการทำงานและหาเงิน
  3. ความเบื่อหน่ายและความสิ้นหวัง: เมื่อชีวิตเป็นเพียงการทำงานเพื่อหาเงินให้ครอบครัว คนที่รู้สึกแบบนี้อาจเริ่มเบื่อหน่ายในชีวิตและรู้สึกสิ้นหวังต่ออนาคต
  4. ความโดดเดี่ยว: บุคคลอาจรู้สึกว่าตนเองถูกทอดทิ้งหรือไม่มีคนที่เข้าใจและยอมรับในความรู้สึกของเขา
  5. ความโกรธและความผิดหวัง: อาจเกิดความโกรธต่อครอบครัวที่ไม่เห็นคุณค่าในตนเอง และความผิดหวังที่ชีวิตของตนไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง

 

วิธีแก้ไขความรู้สึกนี้ ควรเริ่มต้นจากการตระหนักรู้ในความรู้สึกของตนเองและพยายามทำความเข้าใจว่าต้นเหตุของความรู้สึกนั้นมาจากอะไร ซึ่งอาจมีวิธีแก้ไขดังนี้:

  1. การสื่อสารเปิดเผยกับครอบครัว: การพูดคุยอย่างตรงไปตรงมากับสมาชิกในครอบครัวเกี่ยวกับความรู้สึกและความต้องการของตนเอง อาจช่วยให้คนอื่นเข้าใจและรับฟัง ทำให้ความสัมพันธ์มีความสมดุลมากขึ้น
  2. การสร้างสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว: การหาเวลาสำหรับตัวเอง เพื่อทำกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข ช่วยลดความเครียดและเพิ่มความพึงพอใจในชีวิต
  3. การหาความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ: หากความรู้สึกนี้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต การพบผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาหรือจิตเวชอาจเป็นทางเลือกที่ดี เพื่อช่วยให้คุณมีมุมมองที่ชัดเจนและพัฒนาความสามารถในการรับมือกับความรู้สึกของตนเอง
  4. การตั้งเป้าหมายและวิสัยทัศน์ในชีวิตที่ชัดเจน: การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนทั้งในด้านงานและชีวิตส่วนตัว และพยายามทำให้ชีวิตมีความหมายในด้านอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เพียงแค่การหาเงิน จะช่วยให้คุณรู้สึกว่าชีวิตของคุณมีความหมายมากขึ้น
  5. การสร้างความภาคภูมิใจในตัวเอง: การตระหนักรู้ถึงคุณค่าในตัวเองและการยอมรับในความสามารถของตนเอง ช่วยสร้างความมั่นใจและลดความรู้สึกว่าตนเองเป็นเพียงเครื่องผลิตเงิน

 

การจัดการกับความรู้สึกว่าตนเองเป็นแค่เครื่องผลิตเงินในครอบครัวไม่ใช่เรื่องง่าย แต่  สุขภาพหู     การเข้าใจและรับรู้ถึงความรู้สึกของตนเองเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการแก้ไขและพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้นกับครอบครัวและตนเอง

ข้อมูลเกี่ยวกับโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis) เป็นภาวะการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะเชื้อ Escherichia coli (E. coli) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่พบได้ในลำไส้ใหญ่ ภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในคนทุกเพศทุกวัย แต่พบได้บ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเนื่องจากท่อปัสสาวะของผู้หญิงสั้นกว่าของผู้ชาย ทำให้แบคทีเรียสามารถเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะได้ง่ายกว่า

ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงสาเหตุที่ทำให้คนเราป่วยเป็นโรคปัสสาวะอักเสบกัน ว่ามีสาเหตุมาจากอะไรได้ รวมถึงอาการที่จะต้องเจอหากว่าเรากำลังป่วยเป็นโรคชนิดนี้ และที่สำคัญหากมีอาการแล้ว เราควรที่จะดูแลตัวเองอย่างไรถึงจะทำให้รักษาอาการป่วยจากโรคนี้ได้ 

 สาเหตุ

  1. การติดเชื้อแบคทีเรีย: สาเหตุหลักของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบคือการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะ Escherichia coli (E. coli) ที่อยู่ในทางเดินปัสสาวะ
  2. การระคายเคืองทางกายภาพ: เช่น การใช้สายสวนปัสสาวะ การใช้ผลิตภัณฑ์สุขอนามัยส่วนบุคคลที่มีสารเคมีแรง
  3. การใช้ยา: ยาบางชนิด เช่น ยารักษาโรคมะเร็งบางชนิด อาจทำให้เกิดการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ
  4. โรคทางระบบ: โรคบางชนิด เช่น เบาหวาน สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

 

 อาการ

ปัสสาวะบ่อยและรู้สึกเจ็บหรือแสบขณะปัสสาวะ

– ปัสสาวะบ่อยและเร่งด่วน

– ปวดท้องน้อย

– ปัสสาวะมีเลือดหรือขุ่น

– มีกลิ่นปัสสาวะแรง

รู้สึกเหมือนต้องการปัสสาวะตลอดเวลา แต่ปัสสาวะออกน้อยมาก

 

 การวินิจฉัย

  1. ตรวจปัสสาวะ: ตรวจดูการมีอยู่ของแบคทีเรียหรือเม็ดเลือดขาว
  2. การเพาะเชื้อปัสสาวะ: เพื่อระบุชนิดของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ
  3. การส่องกล้องตรวจภายใน: สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการซับซ้อนหรือต้องการตรวจเพิ่มเติม

 

การรักษา

  1. ยาปฏิชีวนะ: เป็นการรักษาหลักสำหรับการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยแพทย์จะจ่ายยาตามชนิดของแบคทีเรียที่พบ
  2. ยาแก้ปวด: เพื่อลดอาการปวดและไม่สบายขณะปัสสาวะ
  3. การดื่มน้ำมากๆ: เพื่อช่วยขับแบคทีเรียออกจากทางเดินปัสสาวะ
  4. การหลีกเลี่ยงสารระคายเคือง: เช่น ผลิตภัณฑ์สุขอนามัยที่มีสารเคมีแรง

 

การป้องกัน

– รักษาความสะอาดของบริเวณอวัยวะเพศ

– ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยขับแบคทีเรียออก

– ปัสสาวะหลังการมีเพศสัมพันธ์เพื่อขับแบคทีเรียที่อาจเข้าสู่ทางเดินปัสสาวะ

– หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรงบริเวณอวัยวะเพศ

 

สำหรับโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบนี้ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศและทุกวัย ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องดูแลสุขภาพร่างกายของเราให้ดี และถ้าหากมีอาการที่สงสัยว่าเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    ตรวจสุขภาพประจำปี

การอดนอนมีผลต่อสมองอย่างไร 

อย่างที่เรารู้กันดีว่าการอดนอนนั้นไม่เป็นผลดีต่อร่างกายเลย เพราะนอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายแล้วยังมีผลต่อสมองของคนเราด้วยซึ่งในบทความนี้เราจะมาพูดถึงการอดนอนว่าจะมีผลอย่างไรต่อสมองของคนเราถ้าหากเรามีการอดนอนอยู่บ่อยๆ แน่นอนว่ามันยังไม่ส่งผลดีต่อสมองของเราอย่างแน่นอนมาดูกันว่าจะส่งผลเสียร้ายแรงยังไงได้บ้าง 

อันดับแรกเลยเราต้องรู้กันว่าถ้าเรามีการอดนอนนั้นมันจะส่งผลต่อสมองเป็นอย่างมาก

เพราะสมองนั้นจะรู้สึกว่าล้าเนื่องจากว่าในช่วงที่เราอดนอนนั้นสมองยังคงต้องทำงานอยู่ตลอดเวลาดังนั้นเมื่อเรานอนน้อยหรือเรามีการอดนอนนั้นก็จะทำให้สมองนั้นล้าเกิดทำให้ความรู้สึกในการทำงานของส่วนสมองนั้นช้าลงตามไปด้วย 

เนื่องจากว่ามันจะทำให้การทำงานของสมองผิดปกตินั่นเองยกตัวอย่างเช่นสมองส่วนบริเวณขมับและส่วนบริเวณส่วนหน้าซึ่งจะสังเกตได้ว่าถ้าหากเราอดนอนมากๆเราจะรู้สึกปวดหัวตรงบริเวณขมับหรือตรงด้านหน้านั่นเอง 

นอกจากนี้ถ้าหากว่าเรานอนร้อยเราก็จะมีอาการอารมณ์ปรวนแปรได้ง่าย   เนื่องจากว่าสมองของร่างกายนั้นจะรู้สึกล้าทำให้เรามักจะอารมณ์เสียแล้ว

ไม่มีความร่าเริงไม่ยิ้มแย้มแจ่มใสบางคนนั้นก็อาจจะรู้สึกเศร้าจนผิดปกติหากรุนแรงมากๆก็อาจจะเกิดสภาวะโรคซึมเศร้าซึ่งเป็นโรคภาวะทางจิตใจหรือบางคนก็อาจจะเกิดอาการหูแว่วประสาทหลอนได้

เมื่อใดที่เรามีการอดนอนหรือเรานอนน้อยนั้นจะเห็นได้ว่าสมองนั้นจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากอย่างเช่นสมองในส่วนของ thalamus ซึ่งสมองส่วนนี้ถ้าเกิดว่าได้รับการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอนั้นมันจะมีการหยุดทำงานในช่วงสั้นๆหรือที่เราจะมักจะพบเห็นกันเป็นประจำนั่นก็คือคนวูบกลางอากาศ

หรือเรียกว่าหลับในนั่นเองซึ่งถ้าหากว่ามีอาการเกิดขึ้นจะส่งผลอันตรายร้ายแรงเป็นอย่างมากเพราะถ้าหากว่าหลับในในที่ที่ทำงานก็อาจจะถูกเจ้านายเจอและถูกหักเงินเดือนหรือถูกไล่ออกได้แต่ถ้าหากว่าหลับในขณะที่ขับรถก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงซึ่งอาจจะถึงแก่ความตายได้

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการอดนอนนั้นมีผลเสียอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นผลเสียต่อร่างกายหรือต่อสมองก็ตามและอันตรายมากที่สุดเมื่อการอดหลับอดนอนของเรานั้นส่งผลต่อสมองของเราเพราะมีความเสี่ยงสูงที่เราอาจจะเกิดปัญหาเป็นโรคต่างๆเช่นโรคหลอดเลือดในสมองตีบ

ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้เรากลายเป็นอัมพาตไม่สามารถทำงานหรือเดินได้ตามปกติและถ้าหากรุนแรงมากกว่านั้นก็อาจจะทำให้เราเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ถ้าหากเราเกิดอาการหลับในขณะที่เราขับรถนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่