น้ำตาลเป็นสิ่งที่ใครหลายคนได้ยินไม่รู้สึกกลัวอะไรกับน้ำตาลแต่ในความเป็นจริงแล้วมีน้ำตาลชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่าไฮฟรุกโตสคอร์นไซรัป

ซึ่งมันเป็นน้ำตาลที่ทำให้เกิดโรคต่างๆตามมาไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ โรคความดัน โรคเบาหวาน เราจะมาติดตามเรื่องของน้ำตาลไฮฟรุกโตสคอร์นไซรัปมันจะมีความน่ากลัวและทำให้ก่อโรคอะไรได้บ้างเราไปดูกันเลย

วันนี้ทาง  หวยออนไลน์   ของเราจะมาเล่าเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวแต่บางคนก็คิดไม่ถึงเราจะมาพูดถึงปัจจัยศัตรูหรือตัวร้ายมากที่สุดของมนุษย์ในปัจจุบันนี้นั่นก็คือสิ่งที่เรียกว่าน้ำตาล

ซึ่งน้ำตาลเราคุยกันจริงๆมันมีหลายอย่างมันถึงจะสรุปและจบมันได้เพราะน้ำตาลนี้มันเป็นสิ่งที่สอนคนไข้มาหลายๆคนที่สอนลูกศิษย์สอนใครไปก็ตามแต่นี่แหละมันคือสนิมภัยร้ายที่มันจะคอยเข้าไปกัดกินภายในร่างกายของตัวเรา

นอกจากนี้แล้วคำว่าน้ำตาลนั้นมันคืออะไรจริงๆมันเป็นหนึ่งในอนุพันธุ์ของกลุ่มที่เรียกกันว่าคาร์โบไฮเดรตซึ่งคาร์โบไฮเดรตนี้มันก็คือจำพวกกลุ่มแป้งนั้นเองเราได้เรียนกันมาตั้งแต่ในวัยเด็กว่าเรารับประทานอาหารมันมีอยู่34หมู่ก็คือ เนื้อฝสัตว์1กรัมมันจะมี4แคลอรี่ ไขมัน1กรัมมี9แคลอรี่คาร์โบไฮเดรต1กรัมจะมี4แคลอรี่เหมือนกัน

โดยคาร์โบไฮเดรตนั้นมันได้มีอยู่หลายอย่างเวลาที่คนเราจะระมัดระวังในเรื่องของน้ำตาลบางคนจะระมัดระวังแค่ของหลานๆบางคนระวังแค่อาหารหวานๆหรือลูกอมหรืออะไรก็ตามแต่เราจะต้องระวังไปจนถึงแป้งด้วย

แป้งนี้ถือว่าเป็นน้ำตาลที่มีความสำคัญผลไม้ก็มีอยู่หลายอย่างที่มีน้ำตาสูงมากบางคนลดน้ำหนักด้วยการกินผลไม้จากนั้นมันก็ไม่ประสบความสำเร็จ

เพราะว่ามันมีน้ำตาลอยู่ภายในผลไม้และมันก็ไม่สามารถที่จะลดน้ำหนักลงได้และก็ยังทำให้ตัวเรานั้นอ้วนอยู่ดีและในช่วงเวลาที่มีจำกัดเราขอพูดเรื่องน้ำตาลที่อยู่ใกลล้ตัวและเป็นภัยมากกว่าน้ำตาลโดยทั่วๆไป

ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เรียกว่าไฮฟรุกโตสคอร์นไซรัปหรือเรียกว่าน้ำตาลฟรุกโตสในชนิดพิเศษที่ได้ผลิตขึ้นมาน้ำตาลชนิดนี้ได้ถูกผลิตขึ้นมาในปีคริสต์ศักราช1966 โดยคนญี่ปุ่นชื่อโยชิยูกิ ทาคาซากิ คนๆนี้เขาได้ทำการผลิตสิ่งเหล่านี้เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร

เนื่องจากน้ำตาลชนิดนี้มีความหวานกว่าน้ำตาลกลูโคสประมาณ1.7เท่าและมีราคาถูกกว่าเยอะส่วนใหญ่แล้วจะทำมาจากน้ำตาลอ้อยมาเคี่ยวมาบดมาผ่านกรรมวิธีจนมีความเข้มข้นมากๆ

น้ำตาลชนิดนี้ที่เป็นศัตรูที่มีความอันตรายของโลกในปัจจุบันที่มันจะทำให้เราทุกคนนั้นสามารถเกิดก่อโรคภายในร่างกายของเราได้เป็นอย่างดีอีกทั้งจะตามมาด้วยโรคต่างๆอีกมากมาย

เพื่อนๆเห็นแล้วว่าสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่นิ่ง เกี่ยวกับโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในยุคนี้ที่มีโรคระบาดอย่าง โควิด แบบนี้แล้วด้วย ไม่สามารถหาวัคซีนแก้ไขได้ และเจอโรคนี้กันทั่วโลก มันอาจจะเกิดช่วงที่เราต้องกักตัวหรือทำงานที่บ้านกันอีกครั้ง วันนี้เราเลยเอาวิธีการดูแลตัวเองหรือวิธีการที่จะช่วยให้เพื่อนๆหรือคนที่ต้องทำงานหรืออยู่บ้านมาใช้เพื่อรักษาตัวเองให้ดีและไม่ให้อ้วนขึ้นนั้นเอง เราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

วิธีการที่หนึ่ง ดื่มน้ำอุ่นหรือดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น

เพื่อนๆที่ต้องทำงานอยู่บ้าน หันมาดื่มน้ำเปล่าให้เยอะๆนะ ดื่มน้ำอุ่นหรือดื่มน้ำอุณหภูมิห้องก็ได้ เพราะการดื่มน้ำเปล่ามากๆ จะช่วยเรื่องการที่ร่างกายจะปรับสมดุลให้ทุกอย่างทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น เพราะร่างกายเราจะมีการขับน้ำและขับของเสียต่างๆ ดังนั้นการดื่มน้ำเยอะๆขึ้นการเติมให้กับร่างกายเรานั้นเอง 

วิธีการที่สอง เลือกกินอาหารที่มีปะรโยชน์

การเลือกกินอาหารที่มีปะรโยชน์นั้นจำเป็นมากในยุคที่ทุกคนต้องหันมาสนใจเรื่องสุขภาพ การกินอาหารที่ดีมีประโยชน์หรือ กินให้ครบ 5 หมู่นั้น คือการที่เพื่อนๆหันมาเลือกกินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนหรือแป้งดี เลือกกินโปรตีนดีหรือไขมันดี รวมไปถึง

การกินผักและผลไม้มากขึ้นด้วยนะ เพราะว่าการที่เพื่อนๆ กินอาหารมีประโยชน์จะทำให้ร่างกายได้สารอาหารครบถ้วนได้ดี

วิธีการที่สาม ออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวขยับร่างกายให้มากขึ้น

การที่เพื่อนๆอยากจะมีหุ่นที่ดีและสุขภาพที่ดี คงหนีไม่พ้นการออกกำลังกายนะ เพราะว่าการที่เราได้ออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหว หรือ ขยับร่างกายให้มากขึ้นะจะช่วยทั้งเผาผลาญพลังงานและได้ใช้แรงทำให้กล้ามเนื้อเราแข็งแรงขึ้นได้ด้วยนะ และหากร่างกายเรามีกล้ามเนื้อเยอะ ก็จะทำให้ระบบเผาผลาญไขมันเราทำงานได้ดีขึ้นไปอีก

วิธีการที่สี่ พักผ่อนให้เพียงพอและนอนให้มีประสิทธิภาพ

เราจะมีสุขภาพดีได้เราต้องมีการพักผ่อนที่เพียงพอด้วยนะ เพราะว่าการที่เราได้นอนได้เพียงพอจะทำให้ร่างกายเราแข็งแรงและพักฟื้นจากความเหนื่อยล้าได้ดีที่สุดและกลับกันการพักผ่อนที่เพียงพอและนอนหลับสนิทจะช่วยเพื่อนๆเรื่องการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดีเลยละ

วิธีการที่ห้า อย่าเครียดทำจิตใจให้แจ่มใส

การที่เราจะมีสุขภาพที่ดี ควรจะมีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ ดังนั้นเราเองต้องอย่าเครียดนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องดูแลสุขภาพ เพื่อนๆควรจะทำจิตใจให้แจ่มใส่ และมีความสุขจะได้สุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจนะ

สนับสนุนโดย    หวยออนไลน์

ใครที่คิดว่าการลดน้ำหนักหรือลดไขมันนั้นแสนยาก นั้นคิดผิดแล้วละ เพราะว่าการลดน้ำหนักหรือลดไขมันนั้น จริงๆแล้วหากเพื่อนๆ เข้าใจหรือวิธีการที่ถูกต้องแล้ว เชื่อว่าเพื่อนๆนั้นจะลดน้ำหนักหรือลดไขมันได้อย่างแน่นอน และเชื่อว่าหากเพื่อนๆได้ลองทำตามแล้วละก็ ก็จะลดน้ำหนักหรือลดไขมันได้อย่างแน่นอน เพื่อนๆ ไปดูกันดีกว่าว่า  6  วิธีที่ว่านั้นมีอะไรบ้างไปดูกันเลย…

ดื่ม คาเฟอีน ให้มากขึ้น หรือนั้นก็คือ ชาเขียว หรือ กาแฟดำ ให้มากขึ้น

การที่เพื่อนๆ นั้นอยากจะผอมหรือลดน้ำหนักให้ได้เร็วขึ้นแต่ก็ยังแพ้กับความหิวของตัวเองอยู่นั้น ดังนั้นเพื่อนๆ ควรจะหันมาดื่มคาเฟอีนดูนะ เพราะว่าการที่เพื่อนๆดื่มคาเฟอีนได้มากขึ้น อย่างชาเขียวหรือกาแฟดำนั้น จะช่วยเรื่องการกระตุ้นระบบเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดีเลยละ

ลดหรืองดการกินคาร์โบไฮเดรตในช่วงเย็นให้น้อยลง

อยากลดน้ำหนักหรือลดไขมันให้ได้เร็วขึ้นนั้น แนะนำว่าเพื่อนๆ ควรจะลดหรืองดการกินคาร์โบไฮเดรตในช่วงเย็นให้น้อยลงนะ นั้นเป็นเพราะว่าการที่เพื่อนๆกินคาร์โบไฮเดรตเยอะในช่วงเย็นจะทำให้สะสมไขมันได้ง่ายนั้นเอง

กินอาหารที่มีรสเผ็ดหรือพริกบ้างก็ได้ 

การกินอาหารรสเผ็ดหรือกินพริกบ้าง นั้นจะช่วยทำให้ระบบย่อยและระบบเผาผลาญไขมันนั้นถูกกระตุ้นและทำงานได้ดีนั้นเอง ดังนั้นเพื่อนๆ สบายใจได้เลยว่ากินอาหารเผ็ดหรือพริกได้นะ แต่อย่ากินเผ็ดมากไปละ

เคลื่อนไหวร่างกายหรือขยับร่างกายให้มากขึ้น

หากเพื่อนๆ มีเวลาว่างหรือระหว่างวันที่ทำงาน เพื่อนๆควรจะเคลื่อนไหวร่างกายให้เยอะๆ หรือ ขยับร่างกายให้มากๆ นะ เพราะว่ามันจะช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีระหว่างวัน และยังทำให้เพื่อนๆลดน้ำหนักได้เร็วขึ้นด้วยนะ

ดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น จะช่วยได้ 

การที่เพื่อนเพื่อน นั้นอยากลดน้ำหนักหรือลดไขมันนั้น เพื่อนๆควรจะหันมาดื่มน้ำเปล่าให้มากๆนะ อย่างน้อยกินให้ได้ 8  แก้ว และการที่เพื่อนเพื่อน ดื่มน้ำเพียงพอจะช่วยทำให้ระบบต่างๆของร่างกายทำงานได้ดีอีกด้วย โดยเฉพาะระบบขับถ่าย และ ระบบเผาผลาญไขมันด้วยนะ แถมหากเพื่อนเพื่อนดื่มก่อนมื้ออาหาร ก็จะทำให้อิ่มเร็วขึ้นด้วยนะ

อย่าเครียดกับการลดน้ำหนัก และทำอารมณ์ให้แจ่มใส

การลดน้ำหนักหรือลดไขมันที่ดี เพื่อนๆไม่ควรที่จะเครียดนะ เพราะว่าความเครียดจะส่งผลต่อการลดน้ำหนักหรือลไขมันได้ละ เพราะว่าหากเพื่อนๆนั้นเครียดจะทำให้ร่างกายไม่ยอมเผาผลาญไขมันเอาได้นะ ดังนั้นอย่าเครียดทำอารมณ์ให้แจ่มใสนะ

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์

รู้หรือไม่ชาบูหม้อไฟไม่ควรกินบ่อยมากเกินไปเพราะเป็นอันตรายต่อร่างกายมากกว่าที่คุณคิด

        หากพูดถึงชาบูหม้อไฟแล้วเราก็เชื่อว่าคงเป็นอาหารจานโปรดของใครหลายๆคนเลยทีเดียวเนื่องจากว่าเป็นอาหารที่ดูแล้วเหมือนจะเหมาะกับคนที่ดูแลและใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพเพราะเป็นอาหารที่มีทั้งเนื้อสัตว์และผัก

     สำหรับร้านชาบูหม้อไฟในปัจจุบันนี้ไม่ว่าในกรุงเทพฯหรือว่าต่างจังหวัดต่างก็มีการเปิดสาขาแข่งขันกันมากมายเพราะมีปริมาณผู้คนที่นิยมไปกินกันแบบไม่ขาดสายในแต่ละวันนั้นเอง 

         แต่คุณรู้หรือไม่ว่าอันที่จริงแล้วอาหารประเภทชาบูหม้อไฟที่คล้ายกับว่าเป็นอาหารสำหรับคนลดน้ำหนักนั้นกับเป็นอาหารที่ไม่ควรที่เราจะกินบ่อยมากจนเกินไปนั่นเองเพราะมันจะมีอันตรายกับร่างกายของเราส่งผลทำให้ร่างกายของเรานั้นอาจจะเกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมาได้แล้วมาดูกันว่าสาเหตุที่ทำให้เราไม่ควรกินชาบูหม้อไฟเยอะจนเกินไปนั้นมีเหตุผลอะไรบ้าง 

         คุณรู้หรือไม่ว่าในชาบูหม้อไฟที่เราเห็นกันอยู่นั้นโดยเฉพาะในน้ำซุปน้ำในนี้จะมีปริมาณโซเดียมค่อนข้างสูงซึ่งเรียกได้ว่าสูงเกินมาตรฐานที่เราสามารถกินเข้าไปได้ในแต่ละวันหากใครเคยมีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของปริมาณโซเดียมในร่างกายที่จะรับได้ในแต่ละวันนั้นจะรู้ว่าเราไม่ควรที่จะกินโซเดียมเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวันซึ่งแน่นอนว่าด้วยปริมาณเท่านี้หากเปรียบกับการกินเกลือเข้าไปได้ก็เท่ากับว่าเราสามารถกินเกลือได้เพียงแค่ 1 ช้อนชาเท่านั้นเอง

           ซึ่งถ้าหากเรากินโซเดียมในแต่ละวันมากเกินกว่า 2000 มิลลิกรัมแล้วเราก็มันจะส่งผลทำให้ระบบไฟของเรานั้นทำงานหนักขึ้นและแน่นอนว่าหลายคนคงรู้ว่าเมื่อไต ทำงานหนักมันจะส่งผลต่อระบบการทำงานภายในร่างกายของเรายังไงบ้าง  ใช่ค่ะเมื่อใดทำงานหนักมันจะทำให้ระบบไตของเรานั้นโทรมเร็วประสิทธิภาพการทำงานลดน้อยลงโรคที่ตามมาก็จะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของโรคไตจนในที่สุดอาจจะทำให้เรากลายเป็นโรคไตวายได้เร็วขึ้นก็เป็นไปได้

         และแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่น้ำซุปเพียงเท่านั้นเนื้อหมูที่เราส่งไปในน้ำซุปนั้นถ้าหากเราเลือกกินเนื้อหมู ที่เป็นหมูติดมันแล้วก็จะได้รับไขมันเข้าสู่ร่างกายซึ่งแน่นอนว่าใครมันก็ไม่ใช่ผลดีกับร่างกายของเราอีกเช่นเดียวกันอีกทั้งยังมีน้ำจิ้มที่มีปริมาณโซเดียมและความหวานเยอะอีกด้วย

      เห็นไหมเขาว่าไม่ว่าจะเป็นน้ำซุปหรือน้ำจิ้มหรือแม้แต่เนื้อที่ติดมันซึ่งเป็นเนื้อที่เมื่อเราจิ้มน้ำจิ้มแล้วจะให้รสชาติที่แสนอร่อยนั้นกลับทำให้เรานั้นมีปัญหาเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บได้ง่ายดังนั้นหากใครที่เป็นคนที่ชื่นชอบการกินอาหารประเภทชาบูสามารถกินได้แต่ไม่ควรกินบ่อยมากจนเกินไปซึ่งเราอาจจะมีการให้รางวัลตัวเองเดือนละ 1-2 ครั้งในการเลือกกินอาหารประเภทชาบูแต่ไม่ควรกินทุกอาทิตย์เพราะมีผลต่อร่างกายมาก

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์

มารู้จักกับโรควัณโรคกันเถอะ โรคนี้ร้ายแรงยิ่งกว่าโควิด-19 เสียอีก

           วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเชื้อโรคชนิดหนึ่ง ที่เชื่อว่าวัณโรค ซึ่งโรคชนิดนี้มีคนเป็นกันทั่วโลก และสำหรับโรควัณโรคนี้นับได้ว่าเป็นโรคที่มีความอันตรายร้ายแรงมากกว่าโลกโควิคเป็นโรคชนิดนี้สำหรับคนไทยแล้วมีคนเป็นมากติดอันดับที่ 14 ของโลกนับจาก 200 ประเทศทั่วโลก  และจากสถิติของคนที่เป็นโรคชนิดนี้สำหรับคนไทยแล้วมีคนติดเชื้อวัณโรคนี้มากถึง 1 ใน 3 ของคนไทยหรือประมาณ 20 ล้านคนจากจำนวนคนไทยทั้งประเทศ 70 ล้านคน

           สำหรับข้อมูลสถิติของกระทรวงสาธารณสุขเมื่อช่วงประมาณปีพศ 2562 ระบุว่ามีคนไทยที่มีอาการติดเชื้อวัณโรคและมีการแสดงอาการออกว่ามีการติดเชื้อมากถึง 1.2 แสนคนในขณะที่คนที่ติดเชื้อและเสียชีวิตจากการติดเชื้อวัณโรคนั้นมีสูงถึง 1200คนซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็อยู่ที่ประมาณ 12 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ดังนั้นถ้าหากเปรียบเทียบคนที่ตายจากการติดเชื้อวัณโรคกับคนที่ไปจากการติดเชื้อไวรัสโควิดนับได้ว่าคนที่ตายจากการติดเชื้อวัณโรคนั้นมีมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด 

         สำหรับเชื้อวัณโรคนั้นเกิดจากการที่เราติดเชื้อโรคชนิดหนึ่งซึ่งเชื้อโรคชนิดนี้มีชื่อว่า Mycobacterium Tuberculosis  หรือตัวย่อของโรคชนิดนี้ก็คือ TB  สำหรับเชื้อโรคชนิดนี้จะเป็นเชื้อโรคที่ค่อนข้างดื้อด้านผนังค่อนข้างหนาและเมื่อเชื้อโรคชนิดนี้เข้าสู่ปอดของคนแล้วเม็ดเลือดขาวในร่างกายของเราจะเข้าไปกินมันเพราะนึกว่ามันเนี้ยเป็นเชื้อโรค

แต่ด้วยร่างกายที่คงทนแข็งแรงของเชื้อโรคชนิดนี้ทำให้เม็ดเลือดขาวไม่สามารถทำอันตรายมันได้และมันยังสามารถใช้ประโยชน์จากเม็ดเลือดขาวเพื่อไปทำการแพร่กระจายเชื้อโรคไปยังร่างกายส่วนอื่นๆได้อีกด้วย สำหรับเจ้าเชื้อ TB ตัวนี้มันจะชอบอยู่ที่ปอดมากที่สุดแต่มันก็สามารถอยู่ในส่วนอื่นๆของร่างกายของคนเราได้เช่นเดียวกัน

               สำหรับคนที่มีเชื้อวัณโรคหรือว่าเชื้อ TB นี้คนส่วนใหญ่มักจะไม่มีอาการแสดงให้เห็นว่ามีการติดเชื้อจนกว่าร่างกายจะทรุดโทรมและทนทานเชื้อโรคนี้ไม่ไหวถึงจะแสดงอาการออกมาให้เห็น สำหรับคนที่มีเชื้อวัณโรคอยู่ในร่างกายนั้นจะมีอาการที่สามารถสังเกตได้ดังต่อไปนี้อย่างแรกนั่นก็คือจะมีอาการของคนเป็นไข้แต่เป็นไข้ต่ำๆประมาณ 2 สัปดาห์

ซึ่งไข้นี้จะเป็นช่วงประมาณซักช่วงเย็นๆ หลังจากนั้นก็จะเริ่มเบื่ออาหารไม่ค่อยอยากกินอะไรทำให้น้ำหนักลดลงแบบผิดปกติ ส่วนอาการต่อมานั้นจะมีอาการเหงื่อออกในช่วงเวลากลางคืนทั้งที่มีการเปิดแอร์เย็นแต่ร่างกายก็จะรู้สึกร้อนอยู่ตลอดเวลา 

            ส่วนอีกอาการหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าเชื้อวัณโรคนี้ไปอยู่ที่ไหนของร่างกาย เช่น  ถ้าอยู่ที่ปอดก็จะมีอาการไอจะมีเสมหะมากแถมการไอก็ยังเป็นการไอแบบเรื้อรังไออยู่ตลอดเวลาและเสมหะก็จะมีสีขาวขุ่น ส่วนการรักษาอาการของการเป็นวัณโรคนั้นจะต้องมีการติดต่อโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์เป็นผู้ดำเนินการรักษาและจะยาโดยตรงซึ่งการรักษาเชื้อโรคนี้อย่างน้อยก็ต้องมีการกินยานานถึง 6 เดือนเลยทีเดียว

สนับสนุนโดย    หวยออนไลน์

หลายๆคนอาจจะเป็นเกี่ยวกับการที่เรารับประทานอาหารเที่ยงมาแล้วได้ประมาณสักพักเราจะรู้สึกว่าเรามีอาการง่วงนอนขึ้นมาทันที มันเป็นเกี่ยวกับระบบของร่างกายของเราไปกระตุ้นสารบางตัวที่ทำให้จำพวกแป้งหรือว่าน้ำตาลที่เรากินเข้าไปนั้นรู้สึกทำให้เรามีอาการง่วง ซึม ได้ง่ายอย่างนี้เป็นต้น

แล้วเมื่อร่างกายของเราได้มีการย่อยอาหารที่เรารับประทานเข้าไปแล้วจากการที่เรากินข้าวเข้าไปก็จะกลายเป็นน้ำตาลทำให้ปริมาณไอน้ำตาลของร่างกายของเรามีความส่งโดยจากนั้นการที่ร่างกายของเราเปลี่ยนจากข้าวเป็นน้ำตาลแล้วก็ทำจากน้ำตาลให้เป็นไขมันเพื่อเป็นการช่วยลดระดับของการทำให้น้ำตานั้นกลับมาเป็นค่าที่ปกติ

ในการที่เราจะรู้สึกว่าในขณะที่เรากินข้าวเข้าไปแล้วได้สักพักจึงเกิดอาการง่วงนอนนั้นก็ส่งผลต่อให้สมองของเราหลั่งสารเมลาโทนิน มาสู่ร่างกายจนไปถึงกระแสเลือดเพื่อทำให้ร่างกายของเรามีอาการง่วงนอนนั่นเองและวิธีการที่เรากินอาหารแล้วทำให้เราไม่รู้สึกง่วงนั้นมีวิธีใดบ้าง

เพราะว่าเราต้องทำงาน ไม่ได้อยู่บ้านเฉยๆการที่เราง่วงในขณะที่ทำงานนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควร พี่จะทำอย่างแน่นอนเรามาดูวิธีการแก้ปัญหาในการที่เรากินอาหารในช่วงตอนเที่ยงแล้วรู้สึกง่วงนอนกันว่ามีอะไรบ้าง

• ควรที่จะรับประทานอาหารในตอนเช้าการที่เรากินอาหารตอนเช้าจะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเรามีความ ตลอดทั้งวันควรที่จะเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในช่วงของตอนเช้าอย่างเช่น นม ไข่ ขนมปังธัญพืชและโยเกิร์ตอย่างนี้เป็นต้น
• ลดอาหารจำพวกการที่เรากินอาหารที่มีการชุบแป้งทอดอย่างเช่นอาหารชุบแป้งทอดต่างๆเส้นพาสต้า ขนมปังที่ขัดสี ข้าว และเราก็ควรที่จะเลือกเกี่ยวกับการรับประทานอาหารอย่างเช่นการที่เราจะกินข้าวก็ควรที่จะเป็นข้าวกล้อง หรือว่าขนมปังโฮลวีทอย่างนี้เป็นต้นว่าจะกินข้าวโอ๊ต
• เครื่องดื่มที่มีรสหวานการที่เราเลือกดื่มเครื่องดื่มที่มีรสหวานเพื่อที่จะให้เรามีความกระชุ่มกระชวยนั้นเป็นเรื่องที่ดีแต่ว่าการทีอยากกินเครื่องดื่มที่มีรสหวานจัดอาจจะทำให้มีแคลอรี่ที่ศูนย์รวมไปถึงการที่เรารูปร่างที่อ้วนขึ้นดังนั้นเราควรที่จะเลือกเป็นการดื่มน้ำเปล่าเพื่อที่จะช่วยในการให้ระบบเผาผลาญหรือว่าไขมันของเราทำงานได้ดีขึ้นนั่นเอง
• งดขนมการที่เรากินขนมขบเคี้ยวนั้นเป็นเรื่องที่ดีแต่ว่าพืชหรือว่าคุกกี้ผลไม้ข้าวโอ๊ตโยเกิร์ตถั่วอัลมอนด์อย่างนี้เป็นต้นเพราะว่าการที่เรากินขนมขบเคี้ยวหรือว่าขนมหวานนั้นอาจจะทำให้เรามีน้ำหนักที่เพิ่มมาเราควรที่จะเลือกมายิ่งเป็นผลไม้หรือว่าธัญพืชจะดีกว่า 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  หวยออนไลน์

  คุณรู้จักโรค  Brain Fog หรือไม่สำหรับเราจะหนีในทางการแพทย์หรือคนไทยเรานั้นมักจะเรียกกันว่าโรคภาวะสมองล้าแน่นอนว่าหลายคนคงไม่รู้จักโรคชนิดนี้แต่คุณอาจจะเป็นโรคชนิดนี้อยู่โดยที่คุณไม่รู้ตัวก็ได้โดยอาการเกิดโรคภาวะสมองร้าวนั้นมาจากการที่คุณกำลังมีความเครียดอย่างมากแต่คุณเองนั้นอาจจะไม่รู้ตัวว่าในตอนนี้คุณกำลังเครียดอยู่

ซึ่งในระหว่างที่คุณมีความเครียดนั้นสมองของคุณก็ต้องทำงานอย่างหนักสำหรับปัญหาของความเครียดของคนเรานั้นเกิดไม่เหมือนกันบางคนเครียดเพราะที่จะต้องมีการใช้สมองในการคิดแก้ไขปัญหาแต่บางคนก็อาจจะมีความเครียดที่เกิดจากคนในครอบครัวสร้างปัญหาทำให้เครียด หรือ แม้แต่บางคนเครียดซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่พวกเขาเหล่านั้นมีปัญหาด้านการเงิน

และจำเป็นต้องรีบหาเงินมาใช้และจะยิ่งเครียดหนักเข้าไปอีกหาทางเอาเงินมาใช้ไม่ได้แน่นอนว่าไม่ว่าคุณจะเครียดเรื่องอะไรก็ตามมันก็จะทำให้สมองของคุณต้องมีการคิดซึ่งก็มีความคิดมากๆมันก็จะทำให้สมองของคุณนั้นเกิดอาการล้าเพราะว่าขโมยของคนนั้นไม่ได้พักและไม่ได้หายจากอาการเครียดที่จะต้องคิดหาทางวิธีแก้ไขปัญหาต่างๆในแต่ละวันเลย

ดังนั้นเราพูดได้เลยว่าอาการโรคภาวะสมองล้านั้นมาจากความเครียดอย่างหลักเป็นตัวเดียวเลยนั่นเอง ซึ่งเราสามารถมองสาเหตุหลักๆของการเกิดภาวะสมองล้าได้จากการที่เรานั้นเมื่อเราเครียดเราก็จะนอนพักผ่อนน้อยและเมื่อเราเครียดเราก็จะกินอะไรได้ไม่ลงทำให้ร่างกายของเรานั้นได้รับสารอาหารไม่เพียงพอการที่เราออกไปทำงานนอกบ้านทุกๆวันเราก็จะได้รับสารพิษจากควันดำของรถหรือสถานที่อื่นๆ

เข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจากอาหารการกินหรือจากทางอากาศในเมื่อเราเครียดการทำงานของเราประสิทธิภาพในร่างกายก็จะลดลงความดันก็จะแย่ลงเรื่อยๆควรจะไปไหลเวียนในสมองดีขึ้นก็ทำงานได้ประสิทธิภาพลงบางครั้งการที่เราต้องใช้เทคโนโลยีต่างๆไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ในการค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆก็ทำให้เราเกิดความเครียดจากการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ได้เช่นเดียวกันดังนั้นหากเราเริ่มรู้สึกว่าเรานั้นรู้สึกร่างกายอ่อนเพลียนอนไม่ค่อยหลับและมีอาการปวดศีรษะอยู่บ่อยๆ

อารมณ์หงุดหงิดแปรปรวนง่ายรวมถึงมีอาการปวดตาตาพร่าเรือนบางครั้งก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นหลงๆลืมๆคิดอะไรไม่ค่อยออกแสดงว่าเรานั้นเริ่มเข้าสู่สภาวะของการเป็นโรคสมองล้าแล้วดังนั้นเราควรจะต้องมีการผ่อนคลายให้กับตนเองอย่านำทุกปัญหามาใส่สมองให้เราคิดซะว่าหากเราเครียดในเรื่องของการงานเมื่อกลับถึงบ้านเราควรจะปล่อยเรื่องของงานนั้นไว้ที่ทำงานเท่านั้น

และกลับมาถึงบ้านก็ควรจะทำให้ตนเองนั้นรู้สึกผ่อนคลายหาอะไรทำที่เราชอบและไม่ทำให้เกิดความเครียดหาเวลาไปพักผ่อนในช่วงวันหยุดออกไปเจอเพื่อนฝูงหรือแม้แต่ทำกิจกรรมกับคนในครอบครัวก็จะสามารถทำให้เรานั้นคลายความเครียดลงได้และที่สำคัญไปยามกินอาหารที่มีประโยชน์และพักผ่อนให้เพียงพอเพียงเท่านี้คุณก็จะห่างไกลจากภาวะโรคสมองล้าแล้ว

สนับสนุนเรื่องราวโดย  หวยฮานอยแบ่งปันฟรี

ปัจจุบันพฤติกรรมาการรับประทานอาหารในช่วงดึก ๆ มักพบเห็นได้กับสาว ๆ หลาย ๆ คน เพราะสมัยนี้การใช้ชีวิตก็มีความแตกต่างไปจากอดีตมากพอสมควร เพราะในอดีตช่วงหัวค่ำก็จะเตรียมตัวเข้านอนกันแล้ว แต่กลับในสมัยปัจจุบันนี้การใช้ชีวิตการทำงานก็จะมีความแตกต่างออกไป บางคนทำงานจนไม่ได้หลับได้นอน หรือบางคนก็อาจจะนอนดึกบ้าง ซึ่งสาเหตุนี้เป็นปัญหาที่ทำให้สาว ๆ

มีรูปร่างที่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากเรามีพฤติกรรมการนอนดึกอยู่แล้ว บวกกับการทำงานจนดึกอีก และแน่นอนช่วงดึก ๆ จะทำให้เรารู้สึกหิวเป็นอย่างมาก เพราะในตอนกลางวันเราอาจจะกินน้อย หรือแทบไม่ได้กินเลยก็ว่าได้ และนี่ก็คือสาเหตุที่อาจทำให้เรานั้นรู้สึกหิวในตอนดึก ๆ ได้ ที่สำคัญเลยคือหากเรามีพฤติกรรมการรับประทานอาหารในช่วงดึก ๆ เป็นประจำสิ่งที่เราอาจจะได้รับคือ ความอ้วนโดยไม่รู้ตัว 

การที่เราได้รับประทานอาหารไปในช่วงกลางดึก บางคนอาจจะมองว่าหากเรากินช่วงดึก ๆ จะทำให้เราอ้วนได้ แต่ก็ใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะบางคนไม่ว่าจะกินในช่วงเวลาไหนก็อ้วนอยู่ดี หรือบางคนก็เท่าไหร่ก็ไม่อ้วนสักที ซึ่งแน่นอนว่าวิธีการรับประทานอาหารในช่วงกลางวันและกลางคือก็จะแตกต่างกันออกไป แต่ร่างกายของคนเราก็ย่อมมีความจำเป็นที่จะต้องการแคลอรีเช่นเดียวกับตอนกลางวัน

เพราะปกติร่างกายของคนเราจะมีการทำงานที่เป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ว่าเป็นในช่วงกลางวัน หรือช่วงกลางคืน ซึ่งการที่เรารับประทานอาหารไปนั้น อานหารก็จะเข้าไปเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอที่ร่างกายต้องการจริง ๆ อย่างไรก็ตาม การรับประทางอาหารในช่วงกลางดึก ไม่ใช่สาเหตุที่จะให้เกิดความได้ แต่ปัญหาจะอยู่ตรงที่เราได้รับประทานอาหารประเภทใดลงไปบ้าง เพราะอาหารในแต่ละมื้อมีความสำคัญกันทั้งนั้นโดยเฉพาะช่วงกลางคืน จะเป็นมื้อที่หนักที่สุด หากรับประทานอาหารที่ไม่ก่อให้เกิดไขมันสะสม ปัญหาความอ้วนก็จะไม่เกิดขึ้น แต่หากเป็นการรับประทานอาหารที่จุกจิก ๆ

ปัญหาโรคอ้วนโดยไม่รู้ตัวก็อาจจะเกิดขึ้นกับตัวคุณได้ ดังนั้นหากไม่อยากให้ปัญหาเกี่ยวกับโรคอ้วนเกิดขึ้น ก็ควรที่จะรับประทานอาหารให้ครบทุกมื้อ เพราะจะได้ไม่ไปหนักในช่วงดึก อีกอย่างหากเราเข้านอนตรงเวลา เราก็อาจจะลดปัญหาความหิวขึ้นได้ในช่วงกลางดึก แต่หากใครที่ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงมันได้ จำเป็นที่จะต้องนอนดึกเพราะต้องทำงานให้เสร็จ ก็ควรเลือกรับประทานอาหารให้ถูก เช่น การกินผลไม้ นม หรือของว่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่หนักจนเกินไป ซึ่งอาหารเหล่านี้จะช่วยให้คุณลดปริมาณความหิวในช่วงดึกลงได้ และที่สำคัญไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะอ้วนหรือป่าว

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  หวยฮานอยออกวันไหนบ้าง

ทุกๆคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าสมุนไพรของไทยนั้นมีประโยชน์มากมายซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีทั้งแก้โรคต่างๆและสรรพคุณมากมาย ยกตัวอย่างเช่น ใบรางจืด สามารถนำมาตำและปิดแผลที่พุพอง ไห้ช่วยทุเลาลงได้น่าอัศจรรย์ใจเพราะสรรพคุณของใบรางจืดนั้นมีฤทธิ์เย็นแต่นั่นไม่ใช่ใบรางจืดอย่างเดียวแต่สมุนไพรของไทยมีหลายชนิดมากๆซึ่งแต่ละชนิดมีสรรพคุณและลักษณะเฉพาะตัวของมันเอง

คนโบราณสมัยก่อนเวลาเจ็บป่วยก็พึ่งสมุนไพรกันทั้งนั้น ตลอดจนนำมาเป็นยารักษาอาการที่เกิดจากการปวดเมื่อยตามข้อกระดูกไห้ตำสมุนไพรแล้วนำมาโปะไว้ตามบริเวณที่ปวด ซึ่งก็เห็นผลได้ชัดเจนมากๆเลยทีเดียว ความน่าอัศจรรย์ใจยังไม่หมดเพียงเท่านี้

เพราะว่าสมุนไพรบางชนิดไม่ใช่แค่รักษากับมนุษย์อย่างเราเพียงอย่างเดียว อีกทั้งยังสามารถช่วยสัตว์เลี้ยงของท่านที่มีอาการป่วยอีกด้วย สมุนไพรบางชนิดยังสามาถสกัดเป็นน้ำมันนวดไห้สัตว์เลี้ยงที่กระดูกเคลื่อนได้ด้วยนะ ทุกๆคนคงคิดไม่ถึงกันล่ะสิว่าต้นไม้เล็กๆหรือใบหญ้าที่เราเดินผ่านกันอยู่ทุกๆวันจะมีค่ามากมายถึงเพียงนี้แล้วทุกๆคนเคยสังเกตุไหมว่าเวลานิองหมาน้องแมวของท่านป่วยพวกเขาก็จะหาใบหญ้าต่างๆกินเพื่อช่วยบรรเทาอาการป่วยของเขา แล้วรู้กันไหมว่ามันช่วยใบหญ้าต่างๆที่สัตว์กินไปนั้นมันช่วยได้จริงๆนะ

ส่วนใครที่ไม่เชื่อว่ามีประโยชน์จริงๆก็มีพิพิธภัณฑ์แพทย์แผนไทยอภัยภูเบศรที่ไห้สำหรับศึกษาเกี่ยวกับสมุนไพรไทยอยู่นะคะซึ่งในส่วนนี้ได้ไห้ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรและสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคต่างๆอีกมากมายที่ดีและปลอดภัยกับสุขภาพของเรานั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามนี่คือองค์ประกอบคร่าวๆนะคะ เพราะสมุนไพรของไทยนั้นยังมีอีกเยอะมากๆที่พวกเราไม่เคยรู้มาก่อน เห็นไหมล่ะ

ว่าประโยชน์ของสมุนไพรมีมากกว่าที่เราคาดคิดไม่ถึงเสียอีกเคยสังเกตุกันไหมว่าคุณปู่คุณย่าบางท่านที่สุขภาพแข็งแรงนั้นก็มาจากการรีบประทานผักที่เป็นสมุนไพรกันทั้งนั้น ทำไห้พวกเขาแข็งแรงและอายุยืนกันมากๆต่างจากคนสมัยนี้ที่ไม่ค่อยรู้ถึงประโยชน์ของมัน หันไปพึ่งยาปฏิชีวนะอย่างเดียว ซึ่งเรื่องนี้อยากไห้ทุกคนได้รู้ว่าต้นไม้ใบหญ้าที่ขึ้นตามบ้านเรือนนั้นก็มีประโยชน์

แต่การที่จะนำมารับประทานนั้นจะต้องเช็คหรือหาข้อมูลก่อนที่จะนำมารับประทานนะเพราะถ้าเกิดทานมั่วโดยไม่ศึกษาหาข้อมูลของพืชชนิดนั้นล่ะก็อาจจะเกิดอัตรายได้ เพราะมีทั้งไห้ดีและไห้โทษ ทีนี้เราก็รู้กันแล้วว่าสมุนไพรของไทยนั้นมีประโยชน์มากแค่ไหน เวลาคุณเจ็บป่วยถ้าคุณมีความรู้คุณก็สามารถนำมาใช้ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งก็เห็นแล้วว่าสมุนไพรใช้ได้กับชีวิตประจำวันของเราได้จริงๆไม่ใช่แค่ในตำรา

ได้รับการสนับสนุนโดย  ชุดตรวจซิฟิลิส

คุณเชื่อหรือไม่ว่าอาหารเช้านั้นมีประโยชน์มากมายทั้งช่วยให้ร่างกายไม่อ่อนเพลียระหว่างวันยังช่วยบำรุงสมองให้คิดอะไรได้ปลอดโปร่งหลายคนไม่ชอบทานอาหารเช้าโดยอ้างว่าไม่มีเวลาดังนั้นเพื่อให้คุณเห็นความสำคัญของการกินอาหารเช้าเราจะมาแนะนำประโยชน์ของอาหารเช้าให้ทราบกันว่าอาหารเช้ามีประโยชน์อย่างไรบ้าง

1. ช่วยให้มีความจำที่ดีคำกล่าวนี้ไม่ได้เกินจริงเลยเนื่องจากว่ามีผลการวิจัยออกมาแล้วว่าหากใครที่กินอาหารเช้าจะช่วยให้อารมณ์ดีและมีความทรงจำที่ดีแต่ในขณะเดียวกันหากคนที่ไม่กินอาหารเช้าจะทำให้รู้สึกหงุดหงิดแล้วไม่ค่อยจำอะไรในการกินอาหารเช้าจะช่วยให้สมองของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เป็นคนหงุดหงิดง่าย
2. การกินอาหารเช้ายังช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักได้ดีอีกด้วยเพราะเนื่องจากว่าถ้าหากเรากินอาหารเช้าเข้าไปแล้วอาหารกลางวันเราจะกินในปริมาณที่พอเหมาะได้กินมากจนเกินไปแต่ถ้าหากใครก็ตามที่ไม่กินอาหารในช่วงเช้าจะทำให้ช่วงสายๆเริ่มรู้สึกหิวแล้วเมื่อกินมื้อเที่ยงก็จะกินมากกว่าปกติเพราะต้องไปชดเชยในช่วงเช้าที่ไม่ได้กินจึงทำให้มีการพิมพ์อาหารกลางวันเยอะเกินไปส่งผลให้อ้วนโดยที่เราก็ไม่รู้ตัวเอง
3. การกินอาหารเช้าจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานได้ ซึ่งมีการวิจัยออกมาพบว่าหากใครที่กินอาหารในช่วงเช้าจะมีผลต่อการผลิตอินซูลินในร่างกายโดยมันจะเข้าไปทำการสร้างความผิดปกติในการผลิตอินซูลินทำให้ร่างกายมีอินซูลินน้อยจึงช่วยในเรื่องของการลดความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานได้มาถึงเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
4. นั่งกินอาหารเช้าช่วยพัฒนาสมองยิ่งถ้าเป็นเด็กๆแล้วก็การกินอาหารเช้าจะช่วยในร่างกายของเด็กแข็งแรงแถมยังมีสารอาหารไปบำรุงสมองในช่วงเช้าให้กับเด็กๆได้มีการพัฒนาสติปัญญาให้มีความสุขมากยิ่งขึ้นซึ่งการกินอาหารเช้าของเด็กๆนั้นมีผลการพัฒนาต่อสมองอย่างต่อเนื่องเด็กคนไหนไม่ยอมที่จะกินอาหารเช้าจะส่งผลต่อการพัฒนาสมองและการบำรุงร่างกายดังนั้นทางที่ดีเราควรมีการจำของเด็กรวมถึงของผู้ใหญ่เองด้วยก็ดีให้หันมารับประทานอาหารเช้าจะดีที่สุดเพราะอาหารเช้าไม่มีผลเสียต่อร่างกายมีแต่ผลดีเท่านั้น 
5. การกินอาหารเช้าจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการเป็นโรคนิ่วได้เนื่องจากว่าการที่เราไม่ได้ทานอาหารเป็นระยะเวลาติดต่อเนื่องกันนานเกิน 14 ชั่วโมงจะส่งผลทำให้ถุงน้ำดีภายในร่างกายของเรามีคอเลสเตอรอลจำนวนมากอยู่ภายในนั้นและมันจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนทำให้เกิดเป็นโรคนิ่วได้เพราะช่วงเวลาที่เรากินอาหารครั้งล่าสุดมักจะเป็นเวลาในช่วงเย็นซึ่งหลายคนจะกินตอน 6 หลังจากนั้นหามากินอาหารอีกครั้งหนึ่งในช่วงเวลาเที่ยงมันจะทำให้ร่างกายเราได้รับสารอาหารนานเกินไปซึ่งจะเกิดผลร้ายมากกว่าผลดี

สนับสนุนโดย  ชุดตรวจ hiv